นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ ปรับปรุงล่าสุด เดือน มกราคม 2566
1.
บทนำ
1.1
บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด และบริษัทในเครือ (“บริษัทฯ”) เคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ใช้บริการ ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ รวมถึงบุคคลใด ๆ ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บริษัทฯ จึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ตลอดจนสิทธิต่าง ๆ ของท่านตามกฎหมาย
1.2
นอกจากนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว บริษัทฯ อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวสำหรับบริการ หรือการจัดกิจกรรมของบริษัทฯ เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนร่วมได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์ และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีเป็นการเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างข้อความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้ถือตามข้อความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวสำหรับบริการหรือสำหรับกิจกรรมนั้น
1.3
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้กับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ อีเมล ช่องทางไปรษณีย์ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนช่องทางหรือสถานที่อื่น ๆ ของบริษัทฯ ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน
1.4
บริษัทฯ อาจมีการปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับล่าสุดจะถูกประกาศให้ท่านทราบ และบริษัทฯ ขอเชิญชวนให้ท่านอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างละเอียด และตรวจสอบนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ
2.
ข้อกำหนดทั่วไป
2.1
บริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อชี้แจงรายละเอียด วิธีการจัดการ และมาตรการที่เหมาะสมสำหรับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย รวมถึงกำกับดูแล ส่งเสริม และบังคับใช้มาตรการดังกล่าวด้วย
2.2
การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสมอ เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2.3
ในกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้อำนาจไว้ หรือมีข้อยกเว้นตามกฎหมายให้กระทำได้โดยชัดแจ้งในการปฏิบัติงานหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้น ๆ ได้โดยตรง แต่อย่างไรก็ดี กรณีที่ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้อำนาจไว้ หรือไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย ให้ถือปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
2.4
บริษัทฯ อาจปรับปรุง หรือแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจัดให้มีการแจ้งเตือนเพิ่มเติมกรณีที่เป็นการปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีนัยสำคัญ
2.5
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับลูกค้า ผู้ใช้บริการ รวมถึงเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตลอนจนบุคคลอื่นใดที่บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
2.6
ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา การปฏิบัติตามสัญญา การให้บริการ การสำรวจ การดำเนินกิจกรรม หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของการเข้าทำสัญญาหรือการดำเนินกิจกรรม อาจมีผลทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
3.
ช่องทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
3.1
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การทำธุรกรรม การรับบริการ การใช้ผลิตภัณฑ์ การเข้าร่วมกิจการ เช่น ขั้นตอนการสมัครงาน การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม การเข้าทำและลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นใดที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ เป็นต้น
3.2
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกิจกรรมของบริษัทฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
3.3
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานของรัฐ พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการข้อมูล บุคคลหรือนิติบุคคลที่มาทำธุรกรรมกับบริษัทฯ แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น ราชกิจจานุเบกษา) ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่บริษัทฯ มีนิติสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น
4.
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทความสัมพันธ์ หรือนิติสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีกับบริษัทฯ รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลต่อการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางตรงและทางอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ผู้ให้บริการของบริษัทฯ (เช่น ผู้ให้บริการจัดทำผลสำรวจ ที่ปรึกษาอิสระ ที่ปรึกษาโครงการ ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษากฎหมาย หรือที่ปรึกษาบัญชี) พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก บุคคลภายนอกอื่น ๆ (เช่น บุคคลอ้างอิง นายจ้าง นักลงทุน) แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น สื่อสังคมออนไลน์) และเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก หรือ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น
4.1
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาพถ่าย คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล นามแฝง เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัวและจำนวนบุตร ข้อมูลความสัมพันธ์ (เช่น ระหว่างผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน) สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ข้อมูลเลขทะเบียนรถ ลายมือชื่อ ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสูติบัตร สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาใบสำคัญหย่า สำเนาใบมรณบัตร สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน)
4.2
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ชื่อ หรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ (เช่น ไอดีไลน์ (LINE ID) เป็นต้น) หรือหลักฐานการมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย (สำหรับกรณีชาวต่างชาติ)
4.3
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารประกอบการทำธุรกรรม เช่น หนังสือรับรองบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หนังสือมอบอำนาจ หนังสือจดทะเบียนพาณิชย์ เลขที่บัญชีธนาคาร
4.4
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเพื่อประกอบการดำเนินงานหรือให้บริการ เช่น ศาสนาตามสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือเชื้อชาติตามสำเนาหนังสือเดินทางของบางประเทศ ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่นำลักษณะเด่นทางพฤติกรรมของการลงลายมือชื่อดังกล่าวมาใช้สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน อย่างไรก็ดี ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนต่อเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต โดยจะดำเนินการเป็นคราว ๆ ไปเมื่อต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
4.5
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลของบุคคลดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) ในกรณีที่บริษัทฯ พบว่าบริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือของผู้ที่เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมจากผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล โดยไม่ได้ตั้งใจ บริษัทฯ จะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีหรือจะเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอมได้หรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น
4.6
หากมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด ซึ่งเป็นบุคลากรของนิติบุคคล หรือที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้ข้อมูลแก่บริษัทฯ เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง คู่ค้า ผู้ค้ำประกัน ผู้จำนอง ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้จัดการมรดก ผู้ติดต่อฉุกเฉิน หรือบุคคลอื่นใดตามเอกสารการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ขอให้ผู้ให้ข้อมูลได้โปรดแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็น หรือกำหนดฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของส่วนบุคคลผู้เป็นบุคคลที่สามได้
5.
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของกิจกรรม บริการ ตลอดจนนิติสัมพันธ์หรือความสัมพันธ์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีต่อบริษัทฯ หรือบุคลากรของบริษัทฯ หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ เช่น
5.1
วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอม บริษัทฯ อาจอาศัยความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการติดต่อสื่อสารบางประเภทซึ่งบริษัทฯ ไม่อาจอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ เช่น การตลาด การสำรวจ การจัดกิจกรรม การให้ข้อมูล ข้อเสนอพิเศษ สิทธิพิเศษ การโฆษณา จดหมายข่าว และการติดต่อสื่อสารอื่นใด ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เกี่ยวกับบริษัทฯ ตลอดจนคู่ค้าทางธุรกิจที่เหมาะสม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมเป็นฐานทางกฎหมายสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิถอนความยินยอมโดยการติดต่อบริษัทฯ ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อาศัยความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เคยให้ไว้ก่อนการเพิกถอนนั้น อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ความยินยอม หรือเพิกถอนความยินยอมในภายหลัง บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินธุรกรรม กิจกรรม หรือให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้
5.2
วัตถุประสงค์ที่อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากความยินยอมบริษัทฯ อาจอาศัยหรืออ้าง (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทฯ และของบุคคลภายนอก โดยได้สัดส่วนกับประโยชน์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือ (6) เพื่อการก่อตั้งและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในอนาคต หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต (แล้วแต่กรณี) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีระหว่างบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ เช่น
(ก)
การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ตามขั้นตอนการดำเนินการบริหารทรัพยากรบุคคล ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และตามนโยบายการบริหารจัดการของฝ่ายบริหาร รวมถึงการจัดสวัสดิการให้แก่ครอบครัวของพนักงาน
(ข)
การใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) การควบคุมการเข้า – ออกสถานที่ทำการของบริษัทฯ
(ค)
การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ง)
การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
(จ)
การดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำไว้ เช่น การประมวลผลพิจารณาใบสมัคร การติดต่อสื่อสาร การรับส่งเอกสารหรือพัสดุ
(ฉ)
การสำรวจความคิดเห็น การเข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทฯ จัดขึ้น
(ช)
เพื่อการติดต่อสื่อสาร เช่น เพื่อใช้ในการติดต่อใด ๆ และจัดส่งข้อมูลข่าวสาร เพื่อการประชาสัมพันธ์และเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อจัดกิจกรรม (เช่น กิจกรรม CSR งานแถลงข่าว งานแสดงและนิทรรศการต่างๆ)
(ซ)
เพื่อดูแลจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า เช่น เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทฯ เพื่อแก้ไขปัญหาตามเรื่องที่บริษัทฯ ได้รับการร้องเรียนมาและปรับปรุงการให้บริการ และเพื่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการให้บริการ
(ฌ)
เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เช่น เพื่อทำการวิเคราะห์ ประเมินและจัดทำรายงานภายในบริษัทฯ เพื่อดูแลการปฏิบัติการ ประสานงาน ติดตามตรวจสอบและควบคุมการดำเนินงานภายในกลุ่ม เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย กฎระเบียบ และมาตรฐาน และเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของการดำเนินงานภายใน เพื่อวางแผนและวางกลยุทธ์การดำเนินงานด้านประชาสัมพันธ์และนโยบายองค์กรและเพื่อพัฒนาการประกอบกิจการ หรือต่อยอดในธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป
(ญ)
เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และแพลตฟอร์ม เช่น เพื่อดูแล ดำเนินงาน ติดตาม สังเกตการณ์และบริหารจัดการเว็บไซต์แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกและรับรองให้มั่นใจว่าเว็บไซต์แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มทำงานอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์แอปพลิเคชั่น และแพลตฟอร์ม เพื่อปรับปรุงแผนงานและเนื้อหาของเว็บไซต์แอปพลิเคชั่น และแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น
(ฎ)
เพื่อรักษาความปลอดภัย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สิน อาทิ เพื่อการควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาดทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน หากบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้
(ฏ)
การดำเนินการอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบหรือการเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัทฯ ตามความเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม หน่วยงานที่ดำเนินการฟ้องร้องคดีและบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดีหรือการสอบสวนโดยบุคคลดังกล่าวในทุกที่ หรือในกรณีจำเป็นที่ต้องดำเนินการเช่นนั้น
6.
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ใครบ้าง
6.1
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือในบางกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
6.2
ในบางกรณี บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลบริษัทฯ หน่วยงานราชการ สมาคม หน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใดตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย ภาระหน้าที่ตามข้อบังคับหรือข้อสัญญา หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัทฯ หรือสิทธิของบุคคลภายนอก ซึ่งอาจรวมถึงการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง
6.3
เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาด้านภาษี ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ตามแต่กรณี
6.4
ในบางกรณีบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด อาจต้องทำงานร่วมกันกับบริษัทในเครือในการให้บริการลูกค้า และใช้ระบบบางส่วนร่วมกัน เช่น ระบบการให้บริการ หรือระบบที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บริษัทในเครือ หรืออนุญาตให้บริษัทในเครือดังกล่าวเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทในเครือสามารถอาศัยความยินยอมที่บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ได้รับมาด้วยเช่นกัน
7.
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือตามที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น
8.
บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานเท่าใด
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้รับข้อมูลมา และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้นานขึ้นตามที่กฎหมายกำหนด
9.
คุกกี้และ วิธีการใช้คุกกี้
คุกกี้ คือ เทคโนโลยีติดตามข้อมูลซึ่งใช้เพื่อวิเคราะห์กระแสความนิยม (Trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ คุกกี้บางประเภทนั้นมีความจำเป็น (Necessary Cookies) เนื่องจากหากปราศจากคุกกี้ที่จำเป็นประเภทนี้แล้ว หน้าเว็บไซต์อาจจะไม่สามารถใช้การได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่คุกกี้บางประเภทนั้นจะทำให้ผู้ใช้บริการใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกมากขึ้น โดยคุกกี้จะจดจำชื่อผู้ใช้ (ในวิธีการที่ปลอดภัย) รวมทั้งจดจำการตั้งค่าทางภาษาของท่าน อันจะทำให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสบการณ์การเข้าใช้เว็บไซต์ของท่าน ปรับแต่งเนื้อหาตามความต้องการของท่าน และทำให้การท่องเว็บไซต์สะดวกมากขึ้นโดยปกติอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะให้ท่านตั้งค่าว่าท่านจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านเลือกไม่ให้มีการติดตามโดยคุกกี้ อาจมีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และหากไม่มีการเก็บคุกกี้ การใช้งานฟังก์ชันหรือเว็บไซต์ของบริษัทฯทั้งหมดหรือบางส่วนของท่านอาจถูกจำกัด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน “นโยบายคุกกี้”
10.
บริษัทฯ มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Safeguard) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Administrative Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน สภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เก็บรวบรวม เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด โดยบริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การกำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา ผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ ลูกค้า ผู้ใช้บริการของบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น
11.
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น และในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดา มารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์ ตามรายละเอียด ดังนี้
11.1
สิทธิขอถอนความยินยอม: หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้บริการกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลง หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์ เป็นต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม
11.2
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ตน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนมาได้อย่างไร
11.3
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
11.4
สิทธิขอคัดค้าน: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
11.5
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
11.6
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอใช้สิทธิคัดค้านของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
11.7
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
11.8
สิทธิร้องเรียน: เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
12.
ช่องทางการขอใช้สิทธิ
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ หรือเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อสอบถามบริษัทฯ ได้ที่
บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด
99 หมู่ที่ 14 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล
เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
อีเมล : info@uta.co.th
โทรศัพท์ : +66(0)2 079 7432
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป